Camping ริมทะเลสาบ Kawaguchiko ณ จังหวัด Yamanashi

เตรียมพร้อมไป Camping กันเถอะ!

    วันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้เวลาแคมป์ปิ้งกับครอบครัว หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มาสัมผัสธรรมชาติริมทะเลสาปบรรยากาศภูเขาฟูจิในเมืองน่ารักๆอย่าง จังหวัดยามานาชิกันค่ะ  ช่วงเดือนพฤศภาคม ยังเป็นช่วงคึกคักฤดูแคมป์ปิ้งอยู่เพราะ กลางวันยังไม่ถึงกับร้อน ส่วนกลางคืนก็เย็นสบายไม่หนาวมากค่ะ

สิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อการแคมป์ปิ้งอย่างเพลิดเพลินสมกับเป็น Camper นั่นคือ

  1. เต็นท์    ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อ ที่นิยมใช้กันก็มี Snow peak, DOD และอื่นๆ เลือกขนาดเต็นท์ให้เหมาะกับการใช้สอย จำนวนคนค่ะ
  2. เครื่องนอน ซึ่งประกอบด้วย ถุงนอน หรือชุดผ้าห่ม หมอนอัดลม  ขอแนะนำเตียงAir bed แบบไม่หนามากจะทำให้นอนสบายค่ะ
  3. อุปกรณ์เป่าลม สำหรับที่นอน Air bed
  4. โต๊ะพับ      ไว้ใช้ประกอบอาหาร วางแก้ว วางของต่างๆ ซึ่งมักเป็นโต๊ะแบบไม่สูง หรือแบบปรับความสูงได้ค่ะ
  5. เก้าอี้พับ     ในชิลล์จิบกาแฟ หรือชมบรรยากาศ
  6. โคมไฟ       จะมีประโยชน์อย่างมากในยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าค่ะ มืดมากก ><
  7. น้ำดื่ม         เตรียมให้เพียงพอสำหรับดื่ม รวมถึงต้มน้ำ เตรียมชา กาแฟ ประกอบอาหารต่างๆ
  8. ลังพลาสติกขนาดใหญ่ทนทาน  ไว้ใส่อุปกรณ์จิปาถะ
  9. ฟืน และอุปกรณ์ก่อกองไฟ             ชาว Camper ญี่ปุ่น จะนิยม ก่อกองไฟ ได้อารมณ์แคมป์ปิ้ง สุดๆ ดูเปลวเพลิงไปชมบรรยากาศโดยรอบ ทำให้ใจสงบอย่างบอกไม่ถูกค่ะ
  10.  เตาแก็สทำอาหารพกพา รวมถึง แก๊สกระป๋อง หากคุณต้องการจะทำอาหารเย็น อย่างเพลิดเพลิน ปิ้งย่าง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ
  11. เต็นท์สำหรับบังแดดให้ร่มเงา    เมื่อมีเต็นท์นอนแล้ว หากใครอยากมีที่หลบแดด หลบฝน ยังไงก็สามารถนั่งเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าอยู่ แนะนำเต็นท์ผ้าใบบังแดดค่ะ
  12. ยากันยุง   ฤดูหนาวอาจไม่จำเป็นแต่หากเริ่มใกล้ฤดูร้อน แมลงและยุงจะเริ่มมา พกไว้ไม่เสียหายค่ะ
  13. ถุงพลาสติก   ไว้ใส่ขยะค่ะ เพราะที่กางเต็นท์ในญี่ปุ่นจะไม่มีที่ทิ้งขยะให้ หรือ มีแต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่นที่แคมป์ที่ไปนี่จะมีค่าทิ้งขยะ 500 เยนนะคะ
  14. จานกระดาษ ช้อนส้อมพลาสติก ตะเกียบใช้แล้วทิ้ง   จะมีประโยชน์มาก ไม่ยุ่งยากในการล้างทำความสะอาดค่ะ ใช้แล้วทิ้งเลย

 

              เมื่อ เตรียมพร้อมแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางกันค่ะ ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึง จังหวัดยามานาชิ โดยก็จะเห็นฟูจิซัง โผล่มาทักทายเราเป็นระยะค่ะ

ผ่าน Fuji Q-Highland สวนสนุกยอดฮิต ที่ให้นักท่องเที่ยวเล่นสนุกและได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิไปด้วยค่ะ

ก่อนเข้าจุดแคมป์ปิ้งก็ไม่ลืมที่จะแวะ Forest mall เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อวัตถุดิบทำบาร์บีคิว หรือ ยากินิขุ ปิ้งมาร์ชเมลโล่กันด้วยค่ะ 

                มาถึงจุดแคมป์ปิ้ง ก็ต้องเข้าไปเช็คอินที่แผนกต้อนรับ (ซึ่งวันนั้นไม่มีคนเลยค่ะ) เค้าจะเตรียมแฟ้มที่แปะชื่อเราไว้ด้านหน้า ให้เราหยิบแฟ้มไปเองซึ่งมีรายละเอียดสถานที่ รหัสเข้าห้องน้ำ ห้องอาบน้ำอยู่ กฏระเบียบต่างๆ ซึ่งคนนอกจะไม่สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้ ให้เฉพาะคนที่มาแคมป์ปิ้งนะคะ เลยเป็นห้องน้ำที่สะอาดมากๆทีเดียว

               จากนั้นก็ช่วยกันกางเต็นท์ จัดเต็นท์ผ้าใบบังแดด เตรียมอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อย กินเวลาไปชั่วโมงหนึ่งได้ค่ะ เป็นงานที่ต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยกันนะคะ เหนื่อยนิดหน่อยแต่สนุกดีค่ะ

                   ถึงเวลาเพลิดเพลินเดินเล่น ริมทะเลสาบถ่ายรูปกันค่ะ  ที่นี่เค้าจะแบ่งพื้นที่ให้แต่ละกลุ่มมาแคมป์ปิ้งกัน ขนาดพื้นที่ 7m x 18m ค่ะ เพียงคืนละ 2,500 เยนเท่านั้น ราคาดีจริงๆมีห้องอาบน้ำให้ด้วยนะคะ

มาถึงรุ่งเช้า ก็ต้มน้ำทานราเมงกันอย่างเรียบง่าย กาแฟสักถ้วยดื่มด่ำบรรยากาศ แค่นี้สุขใจชาร์จพลังได้เต็มที่แล้วค่ะ

เดินเล่นไต่โขดหิน ริมทะเลสาบอีกสักหน่อยก่อนเดินทางกลับกันค่ะ

วันเดินทางกลับ เจอฝนตกเล็กน้อยตอนเช้าเลยรีบเก็บของกลับกัน ยังโชคดีที่เห็นฟูจิซังโผล่มาทักทายบ้าง สามารถแวะเข้าเขตชุมชน ที่มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารมากมาย ซื้อของรองท้องก่อนกลับได้นะคะ 

                การใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียว ที่มีชีวิตประจำวันซ้ำๆกลางป่าคอนกรีต บางคนเจอกับความเร่งรีบทุกวัน ได้มาแคมป์ปิ้ง สัมผัสธรรมชาติ แบบนี้ก็ถือว่าเป็นการเติมพลังกายใจได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ